ชายหาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี

“เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ” เพียงแค่ได้ฟังคำขวัญประจำจังหวัดก็อดจินตนาการไม่ได้ว่าจังหวัดแห่งนี้จะต้องติดชายฝั่งทะเลอย่างแน่นอน อีกทั้งยังมีหมู่เกาะมากมายให้เราได้ไปผจญภัย สุราษฎร์ธานีเป็นจังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของประเทศ อาณาเขตอยู่ติดกับทะเลฝั่งอ่าวไทยตอนบน มีความยาวชายฝั่งทะเล 157.17 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 19 ตำบล โดยระบบนิเวศหาดจังหวัดสุราษฎร์ฯประกอบไปด้วย หาดทราย 41.68 กิโลเมตร หาดทรายปนโคลน 14.31 กิโลเมตร หาดโคลน 85.12 กิโลเมตร หาดหิน 9.55 กิโลเมตร และมีเกาะขนาดเล็ก-ใหญ่รวมกันมากถึง 108 เกาะ (ที่มา: https://www.dmcr.go.th/detailLib/7145 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง,2566)

เกาะที่มีชื่อเสียงของที่นี่ เช่น เกาะพะงัน เกาะสมุย เป็นต้น ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่สำคัญ ได้แก่ แนวปะการัง แหล่งหญ้าทะเล สัตว์ทะเลหายาก เช่น โลมาหลังโหนก โลมาปากขวด โลมาหัวบาตรหลังเรียบ โลมาอิรวดี วาฬเพชณฆาตดำ วาฬบรูด้า ฉลามวาฬ และเต่าตนุ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ หาดทรายสวยงาม ส่งผลให้สุราษฎร์ธานีเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ใครหลายคนอยากมาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติชายฝั่งทะเลด้วยตัวเอง

หาดตลิ่งงาม เกาะสมุย (ที่มา:https://beachlover.net/)

หาดสำเร็จ ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ

หาดแหลมซุย ต.พุมเรียง อ.ไชยา

ถึงแม้ว่าสภาพชายหาดจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ชายหาดถูกกัดเซาะจากคลื่นทะเล เช่น พื้นที่หาดแม่น้ำ ตำบลแม่น้ำ เกาะสมุย ซึ่งชาวบ้านได้มีการร้องเรียนไปยังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อ่านต่อได้ที่ ลงพื้นที่หาดแม่น้ำเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี) เพื่อให้หน่วยงานรัฐเข้ามาดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการรวบรวมข้อมูลโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งจากงบประมาณประจำปีตั้งแต่ พ.ศ.2558-2566 พบว่าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมเจ้าท่า ใช้งบประมาณในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นเงิน 427.61 ล้านบาท

ที่มาข้อมูล: ระบบข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ (https://govspending.data.go.th/)

แต่ก็มีบางพื้นที่ที่หน่วยงานรัฐได้ลงมาตรการบนพื้นที่ชายหาดที่ไม่ได้มีการกัดเซาะ ส่งผลให้ภาครัฐกับประชาชนเกิดความขัดแย้งต่อกัน เช่น หาดบ้านดอนทะเล (บทสรุปหาดดอนทะเล)

นอกจากนี้ยังได้มีการใช้งบประมาณในโครงการขุดลอกปากร่องน้ำ เพื่อไม่ให้ตะกอนทรายมาอุดตันทางออกของแม่น้ำลงสู่ทะเลตั้งแต่ปี พ.ศ.2558-2566 เป็นเงิน 1,047.94 ล้านบาท

ที่มาข้อมูล: ระบบข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ (https://govspending.data.go.th/)

โดยที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีปากร่องน้ำทั้งหมด 26 ปากร่องน้ำ ซึ่งกรมเจ้าท่าได้สร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำ (Jetty) จำนวน 1 แห่งจากทั้งหมด 26 ปากร่องน้ำ ที่ปากร่องน้ำคลองท่าชนะ หาดสวนสน ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ ดังรูปด้านล่าง